เครื่องกรองน้ำตั้งโต๊ะ เป็นหนึ่งในทางเลือกยอดนิยมสำหรับบ้าน คอนโด และสำนักงานขนาดเล็ก ด้วยดีไซน์กะทัดรัด ติดตั้งง่าย และประสิทธิภาพสูง แบรนด์ B Health ได้พัฒนาเครื่องกรองน้ำตั้งโต๊ะหลายรุ่นเพื่อตอบโจทย์การใช้งานที่หลากหลาย บทความนี้จะพาคุณไปเจาะลึกการเปรียบเทียบ 3 รุ่นยอดนิยม ทั้งด้านคุณสมบัติ ราคา และประสิทธิภาพ เพื่อช่วยให้คุณตัดสินใจได้ง่ายขึ้นและคุ้มค่าที่สุด
ทำไมเครื่องกรองน้ำตั้งโต๊ะถึงได้รับความนิยม
ก่อนเข้าสู่การเปรียบเทียบรุ่น เรามาดูเหตุผลที่เครื่องกรองน้ำตั้งโต๊ะได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง
-
ติดตั้งง่าย ไม่ต้องเจาะผนังหรือเดินท่อซับซ้อน เพียงเชื่อมต่อกับก๊อกน้ำก็ใช้งานได้ทันที
-
ประหยัดพื้นที่ ขนาดกะทัดรัด วางได้ทั้งในห้องครัว ห้องนั่งเล่น หรือแม้กระทั่งบนโต๊ะทำงาน
-
ค่าใช้จ่ายเริ่มต้นคุ้มค่า ราคาย่อมเยากว่าระบบกรองขนาดใหญ่ แต่ยังให้คุณภาพน้ำที่สะอาดปลอดภัย
-
เหมาะกับครอบครัวเล็ก–กลาง และออฟฟิศขนาดเล็ก ใช้ได้ทั้งการดื่มและปรุงอาหาร
รุ่นที่ 1 : B Health Counter RO-50
ระบบกรอง: RO 4 ขั้นตอน
คุณสมบัติเด่น:
-
ใช้เทคโนโลยี Reverse Osmosis (RO) ที่กรองน้ำละเอียดสูงสุดถึง 0.0001 ไมครอน
-
กำจัดสารโลหะหนัก เชื้อโรค ตะกอน และคลอรีนได้เกือบ 100%
-
เหมาะสำหรับบ้าน คอนโด และสำนักงานที่ต้องการน้ำคุณภาพพรีเมียม
-
ดีไซน์ทันสมัย ขนาดกะทัดรัด วางบนเคาน์เตอร์ได้สบาย
-
มีระบบแจ้งเตือนการเปลี่ยนไส้กรอง
ราคาโดยประมาณ: ระดับกลางค่อนสูง เหมาะกับผู้ที่ต้องการน้ำบริสุทธิ์ที่สุดและยอมจ่ายเพื่อคุณภาพ
รุ่นที่ 2 : B Health Counter UF-30
ระบบกรอง: UF 3 ขั้นตอน
คุณสมบัติเด่น:
-
ใช้ระบบ Ultra Filtration (UF) ที่กรองเชื้อโรคและตะกอนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
-
ไม่ใช้ไฟฟ้า ประหยัดพลังงาน เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการลดค่าไฟฟ้า
-
การดูแลรักษาง่ายและค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนไส้กรองต่ำ
-
ติดตั้งง่ายเพียงต่อเข้ากับก๊อกน้ำ ใช้เวลาไม่นาน
ราคาโดยประมาณ: ระดับกลาง เหมาะกับครอบครัวเล็กหรือผู้ที่ต้องการเครื่องกรองน้ำคุณภาพดีในงบจำกัด
รุ่นที่ 3 : B Health Counter Carbon Plus
ระบบกรอง: Carbon + UF
คุณสมบัติเด่น:
-
รวมการกรองด้วย Activated Carbon และเยื่อกรอง UF เพื่อกำจัดคลอรีน กลิ่น และรสที่ไม่พึงประสงค์
-
ปรับรสชาติน้ำให้ดื่มอร่อย สดชื่น
-
ขนาดกะทัดรัด เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นที่ต้องการน้ำดื่มสะอาดโดยไม่ต้องลงทุนสูง
-
ไม่ใช้ไฟฟ้า และดูแลรักษาง่าย
ราคาโดยประมาณ: ประหยัดที่สุดในสามรุ่น เหมาะสำหรับครอบครัวเริ่มต้นหรือผู้ที่ต้องการน้ำสะอาดในราคาย่อมเยา
ตารางเปรียบเทียบ (สรุป)
| คุณสมบัติ | RO-50 | UF-30 | Carbon Plus |
|---|---|---|---|
| ระบบกรอง | RO 4 ขั้น | UF 3 ขั้น | Carbon + UF |
| ใช้ไฟฟ้า | ✔ | ✖ | ✖ |
| อัตราการกรอง | สูง | ปานกลาง | ปานกลาง |
| คุณภาพน้ำ | สะอาดที่สุด | สะอาดเพียงพอ | สะอาดและรสชาติดี |
| ราคาประมาณ | สูง | กลาง | ประหยัด |
คำแนะนำการเลือก
การตัดสินใจเลือกเครื่องกรองน้ำตั้งโต๊ะขึ้นอยู่กับความต้องการและงบประมาณ
-
เลือก RO-50 หากคุณต้องการน้ำบริสุทธิ์ที่สุด เหมาะกับบ้านหรือออฟฟิศที่ต้องการคุณภาพน้ำสูงสุด เช่น การชงกาแฟพรีเมียมหรือการดูแลสุขภาพเด็กเล็ก
-
เลือก UF-30 หากต้องการประหยัดไฟฟ้า แต่ยังคงคุณภาพน้ำที่ปลอดภัยสำหรับการดื่ม
-
เลือก Carbon Plus หากต้องการประหยัดงบประมาณแต่ยังคงรสชาติที่ดี เหมาะสำหรับผู้ที่เริ่มใช้เครื่องกรองน้ำเป็นครั้งแรก
เคล็ดลับการดูแลรักษา
ไม่ว่าคุณจะเลือกรุ่นใด การดูแลรักษาอย่างสม่ำเสมอเป็นสิ่งจำเป็น
-
เปลี่ยนไส้กรองคาร์บอนทุก 6 เดือน
-
ตรวจสอบคุณภาพน้ำเป็นประจำ หากรสชาติหรือกลิ่นเปลี่ยนไปควรเปลี่ยนไส้กรองทันที
-
ทำความสะอาดภายนอกตัวเครื่องเพื่อป้องกันการสะสมของเชื้อโรค
-
ตรวจเช็กการไหลของน้ำอย่างสม่ำเสมอเพื่อให้ระบบกรองทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ
เหตุผลที่ควรเลือก B Health
การลงทุนในเครื่องกรองน้ำตั้งโต๊ะ B Health ไม่เพียงให้คุณภาพน้ำที่ดี แต่ยังมาพร้อมบริการที่ครบวงจร
-
มาตรฐานสากล รับรองคุณภาพน้ำดื่มปลอดภัย
-
บริการติดตั้งมืออาชีพ ช่วยให้คุณใช้งานได้ทันทีโดยไม่ต้องกังวลเรื่องการเชื่อมต่อ
-
บริการหลังการขายครบวงจร ตรวจเช็กและเปลี่ยนไส้กรองตามรอบโดยผู้เชี่ยวชาญ
สรุป
การเลือก เครื่องกรองน้ำตั้งโต๊ะ ควรพิจารณาจากคุณภาพน้ำต้นทาง งบประมาณ และจำนวนผู้ใช้งาน
-
RO-50 สำหรับผู้ที่ต้องการน้ำบริสุทธิ์ที่สุด
-
UF-30 สำหรับผู้ที่ต้องการประหยัดไฟฟ้าและบำรุงรักษาง่าย
-
Carbon Plus สำหรับผู้เริ่มต้นหรือผู้ที่ต้องการน้ำดื่มรสชาติสดชื่นในราคาประหยัด
ไม่ว่าคุณจะเลือกรุ่นใด เครื่องกรองน้ำตั้งโต๊ะจาก B Health จะช่วยให้ทุกแก้วที่ดื่มมั่นใจในความสะอาด ปลอดภัย และคุ้มค่าทุกการใช้งาน
