เครื่องกรองน้ำระบบ RO คู่มือเลือกซื้อและติดตั้งเพื่อบ้านและสำนักงาน

เครื่องกรองน้ำระบบ RO คู่มือเลือกซื้อและติดตั้งเพื่อบ้านและสำนักงาน

ในยุคที่คุณภาพน้ำเป็นสิ่งสำคัญต่อสุขภาพ การมี เครื่องกรองน้ำระบบ RO ถือเป็นการลงทุนที่ช่วยให้ทั้งบ้านและสำนักงานได้ดื่มน้ำสะอาด ปลอดภัย และมีรสชาติดีอย่างสม่ำเสมอ ระบบกรองนี้สามารถกำจัดสิ่งปนเปื้อนในน้ำได้อย่างละเอียด ตั้งแต่ตะกอน โลหะหนัก ไปจนถึงเชื้อโรค จึงเหมาะกับครอบครัวที่ใส่ใจสุขภาพ รวมถึงองค์กรที่ต้องการลดค่าใช้จ่ายจากน้ำดื่มบรรจุขวดและสร้างภาพลักษณ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

เครื่องกรองน้ำระบบ RO

ทำความรู้จักเครื่องกรองน้ำระบบ RO

เครื่องกรองน้ำระบบ RO (Reverse Osmosis) คือเทคโนโลยีการกรองน้ำที่ละเอียดที่สุดในปัจจุบัน สามารถกรองสิ่งปนเปื้อนขนาดเล็กถึง 0.0001 ไมครอน ขจัดคลอรีน โลหะหนัก สารเคมีตกค้าง และเชื้อโรคได้อย่างมีประสิทธิภาพ เหมาะทั้งสำหรับ บ้านพักอาศัย และ สำนักงาน ที่ต้องการน้ำดื่มคุณภาพสูง

จุดเด่นของเครื่องกรองน้ำระบบ RO

  1. กรองละเอียดสูงสุด
    ระบบเมมเบรน RO สามารถกำจัดสารปนเปื้อน โลหะหนัก และแบคทีเรียได้เกือบ 100%

  2. รสชาติน้ำสดชื่น
    น้ำที่ผ่านการกรองมีรสชาติสะอาด ดื่มง่าย และเหมาะสำหรับประกอบอาหาร

  3. ปลอดภัยต่อสุขภาพ
    ลดความเสี่ยงจากเชื้อโรคหรือสารเคมีที่ตกค้างในน้ำ

  4. ใช้งานได้ทั้งบ้านและสำนักงาน
    รองรับปริมาณการใช้งานตั้งแต่ครอบครัวไปจนถึงออฟฟิศขนาดใหญ่

ข้อควรพิจารณาในการใช้ระบบ RO

  • มีน้ำทิ้งจากกระบวนการกรอง: ต้องมีท่อน้ำทิ้งและระบบระบายน้ำที่เหมาะสม

  • ใช้ไฟฟ้าในการทำงาน: มีค่าใช้จ่ายด้านพลังงานเล็กน้อยเมื่อเทียบกับระบบกรองแบบ UF หรือ Carbon

  • ต้องเปลี่ยนไส้กรองตามรอบ: โดยเฉพาะไส้กรองเมมเบรน RO ที่ควรเปลี่ยนทุก 12 เดือนเพื่อคงประสิทธิภาพ

รุ่นเครื่องกรองน้ำระบบ RO แนะนำจาก B Health

รุ่น ขั้นตอนกรอง จุดเด่น เหมาะสำหรับ
B Health RO-100 RO 5 ขั้นตอน กรองละเอียดสูง ใช้งานง่าย บ้านพักอาศัย
B Health RO-Office Pro RO 5 ขั้นตอน อัตราการกรองสูง ใช้งานต่อเนื่อง สำนักงานขนาดใหญ่
B Health RO-Compact RO 4 ขั้นตอน ขนาดกะทัดรัด ประหยัดพื้นที่ คอนโดหรือออฟฟิศขนาดเล็ก

เทคนิคติดตั้งเครื่องกรองน้ำ RO ให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุด

  1. ตรวจสอบแรงดันน้ำ เพื่อให้ระบบกรองทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ

  2. เลือกตำแหน่งติดตั้ง ใกล้จุดใช้งาน เช่น ครัวหรือ Pantry เพื่อความสะดวกในการเปลี่ยนไส้กรอง

  3. ใช้บริการติดตั้งจาก B Health เพื่อรับประกันคุณภาพน้ำและความปลอดภัย

การดูแลและเปลี่ยนไส้กรองน้ำ RO

  • เปลี่ยนไส้กรอง Carbon ทุก 6 เดือน

  • เปลี่ยนไส้กรองเมมเบรน RO ทุก 12 เดือน

  • ตรวจสอบคุณภาพน้ำเป็นประจำ เพื่อคงประสิทธิภาพการกรอง

ทำไมต้องเลือกเครื่องกรองน้ำระบบ RO ของ B Health

  • ผลิตภัณฑ์ผ่านมาตรฐานสากล มีอะไหล่และบริการหลังการขายครบถ้วน

  • ทีมงานผู้เชี่ยวชาญดูแลทั้ง ติดตั้ง และ บำรุงรักษา ครบวงจร

  • มีหลายรุ่นให้เลือกตามงบประมาณและปริมาณการใช้น้ำ

สรุป

การลงทุนใน เครื่องกรองน้ำระบบ RO ของ B Health คือคำตอบสำหรับผู้ที่ต้องการ น้ำดื่มสะอาด ปลอดภัย และรสชาติดี
แม้จะมีค่าไฟฟ้าและน้ำทิ้งจากการกรอง แต่หากติดตั้งและดูแลอย่างถูกต้อง ก็จะได้รับความคุ้มค่าระยะยาวทั้งในบ้านและสำนักงาน