สำหรับบ้านหรือสำนักงานที่ต้องการน้ำดื่มสะอาดแต่มีพื้นที่จำกัด เครื่องกรองน้ำติดผนัง คือทางเลือกที่ตอบโจทย์ทั้งความสวยงามและความสะดวกสบาย การติดตั้งแบบยึดผนังช่วยประหยัดพื้นที่บนเคาน์เตอร์และเพิ่มความเป็นระเบียบเรียบร้อย ขณะเดียวกันยังมอบคุณภาพน้ำดื่มที่สะอาด ปลอดภัย และได้มาตรฐานสากล เหมาะกับครอบครัวสมัยใหม่ที่ใส่ใจสุขภาพและดีไซน์บ้านที่ทันสมัย

จุดเด่นของเครื่องกรองน้ำติดผนัง
เครื่องกรองน้ำติดผนังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นในปัจจุบันเพราะผสานทั้งฟังก์ชันและการออกแบบอย่างลงตัว ไม่ว่าจะเป็นบ้าน คอนโด หรือสำนักงานขนาดเล็กก็สามารถติดตั้งได้ง่าย โดยมีจุดเด่นหลักดังนี้
-
ประหยัดพื้นที่ใช้งาน
การติดตั้งบนผนังช่วยลดการใช้พื้นที่บนเคาน์เตอร์หรือโต๊ะ ทำให้ห้องครัวหรือห้องน้ำดูเป็นระเบียบ -
ดีไซน์สวยทันสมัย
รูปทรงเพรียวบางและสีสันที่เข้ากับการตกแต่งภายในทุกสไตล์ -
ติดตั้งง่ายและรวดเร็ว
ไม่จำเป็นต้องมีพื้นที่วางเครื่องกรอง เพียงเลือกจุดติดตั้งที่ใกล้ท่อน้ำ ก็สามารถใช้งานได้ทันที -
คุณภาพน้ำสะอาดปลอดภัย
ระบบกรองหลายชั้นช่วยขจัดคลอรีน ตะกอน โลหะหนัก และเชื้อโรค ทำให้น้ำดื่มสะอาดพร้อมดื่มได้ทันที
ระบบกรองที่ใช้ในเครื่องติดผนัง
เครื่องกรองน้ำติดผนังของ B Health มีให้เลือกหลายเทคโนโลยีเพื่อรองรับความต้องการที่แตกต่างกันของผู้ใช้
-
ระบบ RO (Reverse Osmosis) กรองละเอียดสูงสุด ขจัดสารปนเปื้อนและโลหะหนักได้เกือบทั้งหมด เหมาะกับผู้ที่ต้องการน้ำบริสุทธิ์ขั้นสุด
-
ระบบ UF (Ultra Filtration) ใช้เยื่อกรองละเอียด กรองเชื้อโรคและตะกอนได้ดีโดยไม่ใช้ไฟฟ้า ประหยัดพลังงานและดูแลรักษาง่าย
-
ระบบ Carbon Activated ลดกลิ่นคลอรีนและปรับรสชาติน้ำให้ดื่มอร่อย เหมาะสำหรับบ้านหรือคอนโดที่ต้องการน้ำสะอาดในราคาประหยัด
รุ่นเครื่องกรองน้ำติดผนัง B Health
B Health ออกแบบเครื่องกรองน้ำติดผนังให้มีหลายรุ่น ครอบคลุมทั้งการใช้งานในครัวเรือนและสำนักงาน
| รุ่น | ระบบกรอง | จุดเด่น | เหมาะสำหรับ |
|---|---|---|---|
| B Health Wall RO-Pro | RO 5 ขั้นตอน | กรองละเอียดสูง น้ำดื่มคุณภาพระดับพรีเมียม | บ้านและออฟฟิศขนาดใหญ่ |
| B Health Wall UF-Lite | UF 4 ขั้นตอน | ไม่ใช้ไฟฟ้า ประหยัดพลังงาน | คอนโดหรือสำนักงานขนาดเล็ก |
| B Health Wall Carbon Plus | Carbon + UF | ลดกลิ่นคลอรีน รสชาติสดชื่น | ครอบครัวทั่วไปที่เน้นความคุ้มค่า |
รุ่นต่างๆ ของ B Health ถูกออกแบบมาเพื่อให้ผู้ใช้เลือกได้ตามความต้องการ ทั้งด้านคุณภาพน้ำ ปริมาณการใช้งาน และงบประมาณ
วิธีติดตั้งเครื่องกรองน้ำติดผนัง
แม้จะติดตั้งบนผนัง แต่ขั้นตอนการติดตั้งก็ไม่ยุ่งยาก
-
เลือกตำแหน่งติดตั้งที่เหมาะสม ควรอยู่ใกล้ท่อน้ำหลักและมีพื้นที่สำหรับการเปลี่ยนไส้กรอง
-
ตรวจสอบผนังและอุปกรณ์ยึด ให้มั่นใจว่าผนังแข็งแรงเพียงพอสำหรับรับน้ำหนักเครื่อง
-
เชื่อมต่อท่อน้ำเข้ากับตัวเครื่อง ตามคู่มือการติดตั้ง
-
ทดสอบการไหลของน้ำ เพื่อเช็กการทำงานของระบบกรองก่อนใช้งานจริง
ผู้ใช้สามารถติดตั้งเองได้ตามคู่มือ หรือใช้บริการทีมช่างมืออาชีพของ B Health เพื่อความมั่นใจในความปลอดภัยและประสิทธิภาพสูงสุด
การดูแลและเปลี่ยนไส้กรอง
เพื่อคงประสิทธิภาพการกรองและยืดอายุการใช้งานของเครื่อง ควรดูแลอย่างสม่ำเสมอ
-
เปลี่ยนไส้กรองคาร์บอนทุก 6 เดือน เพื่อลดคลอรีนและกลิ่นไม่พึงประสงค์
-
เปลี่ยนไส้กรอง RO ทุก 12 เดือน (เฉพาะรุ่น RO) เพื่อรักษาความละเอียดในการกรอง
-
ทำความสะอาดตัวเครื่องภายนอกเป็นประจำเพื่อป้องกันการสะสมของเชื้อโรค
-
ตรวจสอบคุณภาพน้ำ หากมีรสชาติหรือกลิ่นผิดปกติควรเปลี่ยนไส้กรองทันที
บริการบำรุงรักษาและเปลี่ยนไส้กรองจาก B Health ช่วยให้ผู้ใช้งานมั่นใจได้ว่าทุกแก้วที่ดื่มมีคุณภาพตามมาตรฐานสากล
ทำไมต้องเลือกเครื่องกรองน้ำติดผนัง B Health
-
ประหยัดพื้นที่ ติดตั้งบนผนังโดยไม่รบกวนการจัดวางเฟอร์นิเจอร์
-
ดีไซน์สวยทันสมัย เข้ากับทุกสไตล์การตกแต่ง
-
คุณภาพน้ำมาตรฐานสากล น้ำดื่มปลอดภัยสำหรับทุกคนในครอบครัว
-
บริการครบวงจร ตั้งแต่การติดตั้ง ตรวจสอบ ไปจนถึงการเปลี่ยนไส้กรอง
ไม่ว่าคุณจะอาศัยอยู่ในคอนโด บ้าน หรือใช้ในสำนักงาน เครื่องกรองน้ำติดผนังจาก B Health คือการลงทุนเพื่อสุขภาพและความสะดวกที่คุ้มค่าในระยะยาว
สรุป
เครื่องกรองน้ำติดผนัง B Health เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการน้ำดื่มคุณภาพสูงในพื้นที่จำกัด ด้วยดีไซน์สวย ประหยัดพื้นที่ และระบบกรองมาตรฐานสากล คุณสามารถมั่นใจได้ว่าทุกแก้วน้ำที่ดื่มจะสะอาด ปลอดภัย และช่วยลดค่าใช้จ่ายจากการซื้อน้ำบรรจุขวดได้อย่างยั่งยืน ทั้งยังช่วยลดปริมาณขยะพลาสติกและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

